วิธีดูดวงด้วยตนเอง อย่างง่ายๆ ด้วยโหราศาสตร์ไทย ตอนที่ 2

ต่อจากบทความที่แล้วที่พูดถึงการดูดวงความรักโดยใช้ดวงดาวเพียงดวงเดียวก็สามารถเห็นคร่าวๆได้แล้ว แต่มันเป็นข้อมูลเพียงคร่าวๆเท่านั้น ในความเป็นจริงเรื่องความรักหรือเรื่องอื่นๆก็มีรายละเอียดมากกว่านั้นมาก ซึ่งในตอนนี้ผมจะเพิ่มรายละเอียดต่ออีกนิด เพื่อรายละเอียดที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ยากอย่างที่คิด

จากตอนแรกที่ผมได้กล่าวไว้ วิธีดูดวงด้วยตนเอง อย่างง่ายๆ ผมจะเน้นการผูกดวงตัวเองขึ้นมาก่อน ดวงของแต่ละคนนั้นไม่ว่าจะผูกกี่ครั้งก็ต้องได้แบบนั้นเสมอ เพราะนี่คือตำแหน่งดาวตอนเกิดของเรานั่นเอง เปรียบเสมือนกับภาพถ่ายที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่นเดียวกับคนเราที่เกิดได้ครั้งเดียว ไม่สามารถเปลี่ยนเวลาเกิดได้ และดาวบนฟ้า ณ เวลาเกิดนั่นแหละ ที่เป็นสิ่งที่โหราจารย์ทั้งหลายนำมาทำนาย ศาสนาพุทธเชื่อว่ามันถูกกำหนดมาแล้วจากกรรมเก่าในชาติก่อนๆ บางศาสนาว่าพระเจ้าประทานให้ บางคนเชื่อว่าดาวต่างๆนั่นแหละที่มีผลกับสรรพสิ่ง

ดังนั้น โหราศาสตร์กับดาราศาสตร์จึงแยกกันไม่ออกครับ เพราะมันคือเรื่องเดียวกันนั่นเอง

สำหรับคนที่ดาวตอนเกิดอยู่ในตำแหน่งไม่ดี อย่าเพิ่งท้อใจไปครับ เพราะ 1 เราสามารถแก้ไขได้ในชาตินี้นั่นเอง และ 2 ยังมีดาวอื่นๆอีกตั้งหลายดวง อาจะช่วยเหลืออยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นในตอนนี้ผมจะพูดถึงดาวดวงอื่นๆว่ามีความหมายอย่างไรกันบ้าง จำดาวอีกแค่ 10 ดวงก็ทายได้อีกมากมายเลยครับ

1. ดาวอาทิตย์ (เลขไทย ๑)

sun

เป็นเจ้าแห่งสุริยจักรวาล เป็นดาวที่ให้แสงสว่าง และแทบจะมีบทบาทมากที่สุดในมวลหมู่ดาว ดังนั้นดาวอาทิตย์จึงมาก่อนเสมอนั่นเอง

ความหมายแบบรูปธรรม ผู้นำสูงสุด (ถ้าดูดวงเมือง หมายถึงพระมหากษัตริย์ หรือผู้นำประเทศสูงสุด ถ้าดูดวงตัวเองจะหมายถึงคุณพ่อ) หรือหมายถึงสามีในดวงหญิง แสงสว่าง ความร้อน ไฟฟ้า ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม ความโอ่อ่า หรูหรา ความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินัย มีชื่อเสียง เกียติยศ ความมั่นใจ ความมีหน้ามีตาในสังคม ความมีพลัง ฯลฯ

(ผมละ ฯลฯ ไว้เพราะมีความหมายอีกมาก แต่ผมเอาเฉพาะสิ้งที่ใกล้ตัวเท่านั้นก่อนนะครับ เพื่อความเข้าใจง่าย)

2. ดาวจันทร์ (เลขไทย ๒)

moon

เป็นดาวที่มีบทบาทรองลงมาจากอาทิตย์ จึงได้มาอยู่ในลำดับที่ 2 และเป็นเจ้าแห่งความอ่อนโยน

ความหมายแบบรูปธรรม ถ้าดูดวงตัวเองจะหมายถึงคุณแม่ หรือหมายถึงภรรยาในดวงชาย เป็นตัวแทนของความเป็นหญิง มีความหมายถึงเกี่ยวกับน้ำ ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม ความอ่อนโยน นุ่มนวล แปรปรวนง่าย สุภาพ เมตตา เห็นอกเห็นใจ ละเอียดอ่อน คิดฝัน เพ้อฝัน ความเป็นระเบียบ ฯลฯ

3. ดาวอังคาร (เลขไทย ๓)

mars

ดาวแห่งนักรบและชายฉกรรจ์

ความหมายแบบรูปธรรม  โหรบางท่านจะใช้ทำนายถึงสามีในดวงหญิง เป็นตัวแทนของความเป็นชาย พลังทางเพศ(ทั้งชายและหญิง)เกี่ยวกับเหล็ก และของมีคม ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม ความแข็ง ความกระด้าง ความกล้า ความขยัน บุ่มบ่าม การลงมือกระทำ ใจร้อน รวดเร็ว กะปรี้กะเป่า ฯลฯ

4. ดาวพุธ (เลขไทย ๔)

mercury

ดาวแห่งการคิดวิเคราะห์และการสื่อสาร

ความหมายแบบรูปธรรม  เอกสาร สมุด หนังสือ มือถือ internet เครื่องมือสื่อสาร รถไฟ เครื่องบิน รถยนต์ ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม การเจรจา การพูด การสื่อสาร(ทุกช่องทาง) การวิเคราะห์ วางแผน การเขียน การประพันธ์ เดินทาง ท่องเที่ยว ไหวพริบ ฯลฯ

5. ดาวพฤหัส (เลขไทย ๕)

jupiter

ดาวแห่งสติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม

ความหมายแบบรูปธรรม  พระ ครู อาจารย์ หมอ หนังสือธรรมะ ผู้ใหญ่ ผู้ช่วยเหลือ ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม ความรู้ สติปัญญา ความมีคุณธรรม ความมีศีล การอยู่ในกรอบ ความซื่อตรง ความดีงาม ความสบายทางใจ ฯลฯ

6. ดาวศุกร์ (เลขไทย๖)

venus

ดาวแห่งกิเลสทุกชนิด เราเรียก Venus ซึ่งเป็นดาวแห่งความสวยงาม นำมาซึ่งกิเลสนั่นเอง

ความหมายแบบรูปธรรม  เงินทอง สมบัติ งานศิลปะ ดารา ของสวยๆงามๆ เครื่องประดับ ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม ความรัก ความใคร่ กิเลส ตัณหา ความสุข ความสบายทางกาย ฯลฯ

7. ดาวเสาร์ (เลขไทย ๗)

saturn

ดาวแห่งความเหนื่อยยาก เก่าแก่ และเชื่องช้า เพราะเป็นดาวที่เดินทางข้ามแต่ละราศีช้าที่สุดใน 7 ดวง อาทิตย์ถึงเสาร์ (ใช้เวลา 2 ปีครึ่ง)

ความหมายแบบรูปธรรม  ทรัพยากรธรรมชาติ เกษตรกรรม ช่างทั้งหลาย ขยะ และรวมถึงศพ ฯลฯ

ความหมายแบบนามธรรม ความทุขย์ยาก เก่าแก่ ช้านาน ละเอียด สุขุมรอบคอบ เชื่องช้า ความวิตก ระแวง ตระหนี่ ฯลฯ

8. ดาวราหู (เลขไทย ๘)

rahoo

จริงแล้วราหูไม่ใช่ดาวแต่เป็นจุดคำนวณจุดตัด ระหว่างดวงอาทิตย์กับวงโคจรของโลก จึงเกิดเป็นเงาขึ้นมา คิดค้นโดยพระมหากษัตริย์รัชกาล 4 ของไทยเรานี่ละ ดาวราหูนี่ที่พระองค์ทรงใช้ในการคำนวณสุริยุปราคาที่ทำให้ทั่วโลกอึ้งมาแล้ว (และท่านเองก็เป็นนักโหราศาสตร์ที่ฝีมือฉมังยิ่งนัก) ดังนั้นจึงเป็นจุดอับ จุดมืด จึงหมายถึงความลุ่มหลง มัวเมา

ความหมาย ลุ่มหลง มัวเมา การเปลี่ยนแปลง(แบบชัดเจน) งมงาย ตั้งใจแน่วแน่ ความฉลาดทันคน(หรือตรงข้ามคือความหูเบา) ความเจ้าเล่ห์ ความทุ่มเท เป็นต้น ฯลฯ

9. ดาวเกตุ (เลขไทย ๙)

ดาวเกตุเป็นจุดคำนวณเช่นกัน จึงไม่มีรูปนะครับ เป็นดาววิญญาณธาตุ  คิดค้นโดยพระมหากษัตริย์รัชกาล 4 เช่นกัน

ความหมาย สิ่งศักสิทธิ์ ตัวเร่ง(ให้แรงมากขึ้น) ความไม่แน่นอน ความแปรปรวน การเปลี่ยนแปลง(แบบวุ่นวาย) ขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความแปลก ความพิศดาร ฯลฯ

10. ดาวมฤตยู (เลขไทย ๐)

uranus

ดาวยูเรนัส เจ้าแห่งการปฏิวัติ(หมายถึงยิ่งใหญ่กว่าการเปลี่ยนแปลง) เดินทาข้ามแต่ละราศีช้ามาก(ใช้เวลาประมาณ 7 ปี) คุณเคยได้ยินไหมว่าชีวิตเรามักมีการเปลี่ยนแปลงทุก 7 ปี นั่นอาจเป็นเพราะดาวดวงนี้ก็เป็นได้

ความหมาย มีความหมายถึงตัวเร่งให้เกิดมากขึ้น(เช่นเดียวกับเกตุ) การปฎิวัติ(การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ๆ) อุบัติภัยต่างๆ โรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ

 

**สำหรับความหมายที่คุณได้อ่านนี้เป็นแค่ส่วนเดียวนะครับไม่ใช่ความหมายทั้งหมด ผมคัดมาเฉพาะอันที่โดดเด่นและควรจะรู้ เพื่อความเข้าใจง่ายและไม่รู้สึกยาก หากอยากทราบความหมายอื่นๆเพิ่มเติมสามารถหากได้ตามเวบ ถ้าหากอยากทำนายได้อย่างจริงจัง ยิ่งู้ความหมายเยอะยิ่งดี เพราะจะทำให้คุณเป็นนักทำนายที่แพรวพราวมากทีเดียว

สำหรับคนที่ขี้เกียจจำ โหราจารย์ท่านแต่งคำกลอนเอาไว้ให้จำได้ง่ายขึ้น เป็นเหมือนบทสรุปความหมายของดาวดังนี้

ยศศักดิ์ ทายอาทิตย์(๑)
รูปจริต ทายจันทร์(๒)
กล้าแข็งขยัน ทายอังคาร(๓)
เจรจาอ่อนหวาน ทายพุธ(๔)
ปัญญา บริสุทธิ์ ทายพฤหัส(๕)
กิเลสสมบัติ(กำดัด) ทายศุกร์(๖)
โทษทุกข์ ทายเสาร์(๗)
ลุ่มหลง มัวเมา ทายราหู(๘)
อายุ ยืนอยู่ ทายเกตุ(๙)
ภัย อาเพศ ทายมฤตยู(๐)

ผมเป็นคนท่องกลอนไม่เก่งนะครับ แต่กลอนนี้ผมท่อง 3-4 ครั้งก็จำได้แล้วและเป็นตัวช่วยอย่างดีในการทำนายเริ่มต้น

สำหรับคนที่สงสัยว่าดาวเคราะห์บนฟ้ามีอีกตั้งหลายดวงเช่น เนปจูน พลูโต ทำไมไม่นำมาทำนาย คำตอบคือมีทั้งคนที่นำมาใช้ทำนายและไม่ใช้ คนที่ไม่ใช้เพราะ 1. ในอดีตดาวเคราะห์ที่ใช้ในการทำนายแต่แรกเริ่มมาจากดาวเคราะห์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้นครับ จึงมีแต่ อาทิตย์ถึงเสาร์ ส่วนราหู กับ เกตุ เพิ่งถูกค้นพบ(คิดค้น)โดยรัชกาลที่ 4 นี่เอง ส่วนมฤตยูก็เพิ่งพบทีหลัง ดังนั้นตั้งแต่สมัย ร.4 เป็นต้นมาจึงใช้กันเพียง 10 ดวงนี้ และเหตุผลข้อที่ 2. คือดาวนปจูนกับพลูโตอยู่ไกลเกินกว่าระยะที่โหราจารย์กำหนด ที่เชื่อว่าจะมีผลต่อโลกมนุษย์นั่นเองครับ ดังนั้นการทำนายจึงมีการแตกแขนงออกไป ขึ้นอยู่กับโหรว่าจะเลือกใช้แบบไหนครับ สำหรับผมเลือกแบบใช้ดาวเพียง 10 ดวงเท่านั้นครับ ซึ่งผมว่าง่ายกว่าแล้วก็เพียงพอสำหรับการทำนายทุกอย่างแล้ว

เอาล่ะ ทีนี้มาดูตัวอย่างกัน ผมจะใช้ดวงเดิมจากบทความที่แล้วนะครับ

payakorn6

ดวงคนนี้ลัคนาอยู่ที่ราศีมิถุน ยังจำกันได้ไหมลัคนาคืออะไร ลักคนาคือราศีของเรา ณ เวลาเกิดนะครับ แทนด้วย ลั ซึ้งหมายถึงตัวของเรานั่นเอง ทีนี้เราลองมาทำนายตามความหมายดาวที่ผมอธิบายไว้ด้านบนนะครับ สมมติว่าจะดูเรื่องความ “มั่นใจ” ของดวงนี้ ต้องดูที่ดาวอะไรครับ

คำตอบคือดาวอาทิตย์(๑) นั่นเอง ก็หาดูว่าดาว ๑ อยู่ที่ช่องไหนเมื่อนับจากลัคนา ลั 

คำทำนายเมื่อดาว ๑ อยู่ในภพต่างๆเมื่อเริ่มนับจาก ลั (ลัคนา) ทวนเข็มเสมอนะครับ

อยู่ช่องที่ 1 (ผมจะเรียก ช่อง ว่า ภพ นะครับ) หรืออยู่ที่เดียวกับ ลั นั่นเองหมายถึงเป็นคนมั่นใจในตัวเอง (ลัคนา = ตัวเอง)

อยู่ภพที่ 2 มั่นใจในเรื่องเงินๆทอง หรือสิ่งที่ได้มา หมายถึงใช้เงินเร็ว หรือได้เงินเร็วก็ได้ หรือเป็นคนที่ดูมีเงินก็ได้(แต่มีจริงหรือไม่ต้องดูอย่างอื่นประกอบนะ)

อยู่ภพที่ 3 เด่นในหมู่เพื่อนฝูง หรือพี่น้อง(ท้องเดียวกันเท่านั้น) เป็นคนที่เด่นในเรื่องสารสื่อสาร และต้องดูดีในเรื่องการเข้าสังคม

อยู่ภพที่ 4 เป็นคนชอบมีบ้านหรือมีรถหรูหราโอ่อ่า ชอบความมั่นคง เป็นคนโดดเด่นในหมู่ญาติ

อยู่ภพที่ 5 มีความรักฟุ่มเฟือย ทำอะไรเสี่ยงๆบ่อยครั้ง มีความเป็นเด็กสูง ชีวิตมักจะมั่นคงยาก ลูกมักสง่าผ่าเผย มีความมั่นใจ

อยู่ภพที่ 6 วัยเด็กมันเจ็บป่วย เป็นคนทำงานหนัก ปัญหาอุปสรรคเยอะ ชอบการแข่งขัน เป็นนักต่อสู้

อยู่ภพที่ 7 มีเพศตรงข้ามเข้ามาเยอะ คู่ครองชอบแสดงออก หรือมีหน้ามีตา คู่ครองเป็นคนมั่นใจ

อยู่ภพที่ 8 ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไรนัก ร่างกายไม่แจ่มใส มีโรคประจำตัว วัยเด็กมักโตช้าหรือมีพัฒนาการที่ช้ากว่าคนอื่น

อยู่ภพที่ 9 ชีวิตมักประสบความเร็จ โดดเด่นมั่นใจในเรื่องการต่างประเทศ มีความทะเยอทะยานที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น

อยู่ภพที่ 10 เด่นในหน้าที่การงาน มั่นใจในการกระทำของตัวเอง มั่นใจมนการทำงาน วาสนาดี อนาคตดี

อยู่ภพที่ 11 มีคนอุปถัมป์เพียบ ได้อะไรมาง่ายๆบ่อยครั้ง ชีวิตมักสมหวังบ่อยครั้ง ระวังอาจเป็นคนโลภ

อยู่ภพที่ 12 ชอบทำอะไรคนเดียว ลับๆ มั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่คนเดียวไม่เปิดเผย ชอบเรื่องลี้ลับ

อย่างในดวงนี้ ดาว ๑ อยู่ภพ ตนุ จึงอ่านได้ว่าเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ชอบความโดดเด่น โอ่อ่า ชอบเป็นที่รู้จัก ชอบได้รับคำชมยกย่องต่างๆ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และอาจเป็นคนใจร้อน(ดาวอาทิตย์หมายถึงความร้อนนั่นเอง)

หากดวงนี้เป็นดวงหญิง และต้องการดูเรื่องสามีก็สามารถดูได้จากดาว ๑ เช่นกัน คำทำนายดังนี้

คำทำนายเรื่องสามีเมื่อดาว ๑ อยู่ในภพต่างๆเมื่อเริ่มนับจาก ลั (ลัคนา) ทวนเข็มเสมอนะครับ

อยู่ช่องที่ 1 สามีอยู่ใกล้ตัว ไม่ต้องห่างไปไหนกัน

อยู่ภพที่ 2 สามีชอบหาเงิน มีเงิน

อยู่ภพที่ 3 สามีมาจากหมู่เพื่อน หรือการเข้าสังคม

อยู่ภพที่ 4 สามีเป็นคนมั่นคง มีบ้านมีที่ดิน

อยู่ภพที่ 5 มีสามีเด็กกว่า

อยู่ภพที่ 6 วสามีมีศักดิ์ตำกว่า หรือมักสร้างปัญหาหรือหนี้สินให้

อยู่ภพที่ 7 สามีคอยช่วยเหลือสนับสนุน

อยู่ภพที่ 8 สามีอยู่ห่างกัน มาจากที่ไกล หรือแต่งแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกัน

อยู่ภพที่ 9 สามีเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก เป็นชาวต่างชาติ

อยู่ภพที่ 10 สามีมาจากหน้าที่การงาน หรือช่วยเหลือการงาน

อยู่ภพที่ 11 สามีนำลาภผลมาให้ หรือได้สามีมาโดยง่าย

อยู่ภพที่ 12 สามีสนับสนุนลับๆ หรือมีสามีแบบไม่เปิดเผย

นี่คือตัวอย่างการทำนายครับ หวังว่าคงสนุกกันนะครับ ผมเองคงไม่สามารถสาธยายได้หมดว่าดาวแต่ละดวงเมื่ออยู่ที่ภพไหนจะทายว่าอะไร ใครที่กำลังคิดว่าต้องท่องจำอะไรเยอะแยะ งงไปหมด ขอบอกเลยว่าเข้าใจผิดครับ คุณจำแค่ดาว 10 ดวงนี้ให้ได้ก่อน ตอนหน้าผมจะเฉลยความหมายของทั้ง 12 ภพให้คุณได้ทราบกัน เมื่อทราบแล้วก็สามารถทำนายได้เลยโดยไม่ต้องจำ!!!!

 

ตอนที่ 3 คลิ๊กเลย

Facebook Comments